หน้ากากอนามัย

หน้ากากอนามัยใส่แบบไหนจึงจะถูกต้อง?

ฤดูกาลหน้าฝน คนป่วยยิ่งเพิ่มมากขึ้น แถมช่วงนี้ยังพบผู้ป่วยจากไวรัสเมอร์สคอฟรายแรกแล้วในประเทศไทย หลายคนคงป้องกันตามหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัยกันมากขึ้น ซึ่งการสวมหน้ากากอนามัย ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าควรจะหันด้านไหนดีจึงจะป้องกันได้?

หน้ากากอนามัย เป็นอุปกรณ์ใช้เพื่อป้องกันมลภาวะที่เป็นพิษทางอากาศหรือเชื้อโรคต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งมีอยู่หลายรูปแบบมากที่วางขายกันตามท้องตลาด โดยหน้ากากอนามัยที่คนใช้โดยทั่วไปนั้นจะมีดังต่อไปนี้

หน้ากากอนามัยที่ผลิตจากผ้าฝ้าย จะเน้นเพื่อใช้สำหรับป้องกันฝุ่นละออง และป้องกันการกระจายของน้ำมูกหรือน้ำลายจากการไอหรือจาม แต่อาจไม่สามารถกรองเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กมากๆ ได้

หน้ากากอนามัยที่ผลิตจากใยสังเคราะห์ 3 ชั้น มีคุณสมบัติในการกรองฝุ่น ป้องกันของเหลวซึมผ่าน และป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคจากการไอหรือจาม โดยหน้ากากอนามัยประเภทนี้จะมีคุณสมับัติในการกรองเชื้อโรคจำพวกเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อราได้ มีประสิทธิภาพในการกรองได้ไม่น้อยกว่า 95% ของอนุภาคขนาด 3 ไมครอน ซึ่งทั้ง 3 ชั้นนั้นผลิตจากวัสดุต่างกัน ดังนี้

   ชั้นนอกทำจากวัสดุ Poly Propylene Spunbond ซึ่งมีคุณสมบัติที่ย่อมให้อากาศผ่านเข้าออกและไม่ดูดซึมน้ำ มีความหนาตั้งแต่ 14-20 grams 

   ชั้นกลางทำจากแผ่น Melt Blown Filter ซึ่งมีความหนาตั้งแต่ 20-25 grams (เรามักจะพบว่า การใช้แผ่น Filter ที่หนากว่าจะให้ประสิทธิภาพการกรองเชื้อที่ดีกว่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลการวิเคราะห์จากองค์กรตรวจสอบการกรองเชื้อ) 

   ชั้นในทำมาจากวัสดุเช่นเดียวกันกับชั้นนอก แต่จะมีความหนาตั้งแต่ 20-25 grams

หน้ากากอนามัยชนิด N95 เป็นหน้ากากอนามัยที่ได้รับการยอมรับว่าสามารถป้องกันเชื้อโรคได้ดีที่สุด เพราะป้องกันได้ทั้งฝุ่นละอองและเชื้อโรคที่มีขนาดอนุภาคเล็กได้ถึง 0.3 ไมครอน อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานนานราว 3 สัปดาห์ แต่ก็ควรเปลี่ยนใหม่ทุกๆ วันจะดีกว่า

ทีนี้เราจะใส่หน้ากากอนามัยด้านไหนกันแน่ แล้วใส่คนละด้านแตกต่างกันหรือไม่ ใส่อย่างไรจึงจะถูกวิธีและป้องกันเชื้อโรคได้มากกว่ากันล่ะ ..หลายคนก็ยังถกเถียงกันไม่จบ

การใส่หน้ากากที่ถูกต้องคือ ห้ใส่หน้ากากตามที่ผู้ผลิตระบุไว้ เนื่องจากหน้ากากที่ผลิตจากใยสังเคราะห์หรือเยื่อกระดาษนั้นมีตัวกรองอยู่ตรงกลาง ไม่ว่าจะหันด้านสีเข้ม หรือสีอ่อนเพื่อป้องกันก็ไม่ได้มีความแตกต่างกันในด้านประสิทธิภาพ ส่วนในเรื่องของการกันน้ำหรือน้ำลายนั้น ทั้งสองด้านก็กันได้แค่เพียงบางส่วนเท่านั้น หากผ้าเปียกก็สมควรเปลี่ยนใหม่อยู่ดี เพราะถึงอย่างไรก็สามารถซึมได้ทั้งสองด้าน ในเรื่องของพื้นผิวของหน้ากากนั้น บางยี่ห้อผลิตด้วยวัสดุแตกต่างกัน อาจจะมีพื้นผิวที่เรียบและสากต่างกัน หากหันคนละด้านกับที่ผู้ผลิตระบุไว้ก็อาจระคายเคืองผิวหน้าได้ 

คนที่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยคือคนป่วย รวมถึงผู้ดูแลคนป่วยอย่าใกล้ชิด ซึ่งวิธีใส่ที่ถูกต้อง อันดับแรก เราต้องตรวจดูให้เรียบร้อย โดยให้เอาด้านแถบเหล็กขึ้นด้านบน อย่าจับบริเวณผ้าของหน้ากากอนามัย ให้จับที่สายรัดแล้วจึงคล้องไปที่หู จัดแถบเหล็กให้เหมาะกับสันจมูก แล้วดึงด้านล่างของหน้ากากอนามัยลงมาให้ลงมาคลุมถึงใต้คาง เมื่อขยับหน้ากากเพื่อดื่มน้ำหรือรับประทานอาหาร ให้ล้างมือทุกครั้ง และห้ามเก็บหน้ากากไว้ใช้ซ้ำเพราะหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค เวลาทิ้งก็ควรทิ้งในถังขยะที่มีฝาปิดหรือใส่ถุงพลาสติกปิดให้สนิทก่อนทิ้ง

                                      รู้แบบนี้แล้วก็รู้จักป้องกันตัวเองให้ถูกวิธีด้วยนะ ดูแลสุขภาพกันด้วยนะ



ที่มาของข้อมูล

www.youtube.com/watch?v=amkDkAMl5V4&feature=youtu.be
www.youtube.com/watch?v=AjzKRVdBzHc&feature=youtu.be
www.xn--12ca4ec4bg1dt2bebd60a.com/
www.vcharkarn.com/varticle/40148

ที่มาภาพ

www.innnews.co.th